แอป Snapchat แอปใหม่ล่าสุดที่ปล่อยให้ได้ ดาวโหลดแล้วใน IOS และ Android มาพร้อมกับฟีเจอร์สนุก ๆ ที่พบได้ในแอปนี้
แอป Snapchat ที่ในปัจจุบันได้รับความนิยม โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น เพราะว่าแอปพลิเคชันนี้ ถือว่าคือโซเชียลมีเดีย รูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งาน สามารถแชร์ภาพถ่าย ในชีวิตประจำวัน ที่ให้เพื่อนดูได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะ มีปัญหาในภายหลัง เพราะว่าภาพถ่ายนั้น จะหายไปเอง เมื่อระยะเวลาผ่านไปสักพัก
Evan Spiegel คือผู้ก่อตั้งแอปดังกล่าว ยืนยันว่าจะไม่ขาย แอปพลิเคชัน Snapchat ดังกล่าวให้กับเฟซบุ๊ก หากจะนึกถึงนักธุรกิจหนุ่มที่ เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
คนส่วนใหญ่น่าจะนึกถึง Mark Zuckerberg คนที่คิดค้น Facebook ซึ่งจะมีหนุ่มอีกคน ที่มีเรื่องราวคล้าย ๆ กัน ก็คือ Evan Spiegel ซึ่งเป็นคนสร้าง Snapchat และในเวลาต่อมาเขาก็กลายมาเป็น มหาเศรษฐีระดับ Billionaire นั่นก็คือบุคคล ที่มีทรัพย์สินเกินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวัยแค่ 25 ปี
หลายคนน่าจะ ไม่ทราบมาก่อนว่า Evan Spiegel ได้ปฏิเสธการขาย แอปพลิเคชันให้กับ Mark Zuckerberg จนในที่สุดทาง Facebook ต้องมีการคิดค้น ลูกเล่นในแอปที่คล้ายกับ แอพsnapseed เพื่อมาสู้กัน
Evan Spiegel คือนักธุรกิจสัญชาติอเมริกา ตอนนี้เขามีอายุ 31 ปี เป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบ เรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยี มาตั้งแต่สมัยเรียน ซึ่งในตอนนั้น เขาได้ประกอบคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้งานเองได้ ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
และเขาได้เข้าศึกษาที่ มหาวิทยาลัยในสาขา ออกแบบผลิตภัณฑ์ ในตอนนั้นเขาได้เข้าฟังบรรยาย จากเจ้าของธุรกิจหลายราย อีกทั้งยังมีโอกาสได้ฝึกงาน สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
จนเกิดไอเดียที่เขา ต้องการทำธุรกิจขึ้นมาเป็นของตัวเอง เขาจึงได้ชวนเพื่อนสนิท ก็คือ Bobby Murphy ให้มาร่วมกัน พัฒนาแพลตฟอร์ม ที่เข้ามาช่วย ในเรื่องของการ สมัครเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งในตอนนั้นสิ่งที่พวกเขาทำ ยังไม่ประสบความสำเร็จ
และเมื่อพวกเขา ได้พบกับ Reggie Brown ในการสนทนากันครั้งนั้น เกิดประเด็นที่ว่า พวกเขาต้องการที่จะ ลบรูปภาพที่ได้ส่งไปให้ คนอื่นก่อนหน้านี้ เป็นที่น่าแปลกใจว่า จากบทสนทนาในครั้งนั้น ได้จุดประกายให้ Evan Spiegel เกิดแนวคิดในการทำธุรกิจ
ซึ่งแนวคิดนั้น แอพหาคู่ เป็นเหมือนการสร้าง แอปพลิเคชันแชร์รูปภาพ แอปรูปภาพวิดีโอ ที่สามารถหายไปได้ ในเวลาไม่นาน พวกเขาได้ช่วยกันทำโครงการนี้ และได้นำเสนอหน้าชั้นเรียน แต่กลายเป็นว่า อาจารย์และเพื่อน ๆ ที่อยู่ในชั้นเรียนกลับหัวเราะเยาะ เนื่องจากคนส่วนใหญ่คิดว่า คงจะมีใครต้องการใช้งาน แอปพลิเคชันรูปแบบนี้สักเท่าไร เป็นไปได้ว่า จะถูกนำไปใช้งาน ในทางที่ไม่ดี
แต่เหตุการณ์นี้ ไม่ได้ทำให้พวกเขา อยากล้มเลิกความคิดนี้ และได้ตัดสินใจพัฒนาต่อไป ซึ่งในเวลาต่อมา แอป Snapchat พวกเขาก็ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มแชร์รูปภาพ โดยใช้ชื่อว่าแอป Picaboo เมื่อปี 2010 แต่ในตอนตั้นนั้นแอป Picaboo ยังไม่เป็นที่นิยมซึ่งมีผู้ใช้งานแค่ 132 คนเท่านั้น ในเวลาต่อมา ได้เกิดปัญหาภายใน ระหว่างพวกเขาทั้ง 3 คน
จึงทำให้สัดส่วน การถือหุ้นในธุรกิจนี้ ต้องเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในตอนนี้มีหุ้นส่วนบริษัทอยู่เพียง 2 คน ซึ่ง Evan Spiegel ขึ้นเป็นซีอีโอของบริษัท จากนั้นมีการเปลี่ยนชื่อ แอปพลิเคชันว่า Snapchat พอระยะเวลาผ่านไป หลายคนก็สามารถรับรู้ ในประเด็นแอปดังกล่าว ต้องการนำเสนอมากขึ้น
และต่อมาในปี 2013 จำนวนการดาวน์โหลดของ แอพย้อนวัย เพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านบัญชีต่อวัน ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ Evan Spiegel คิดลาออกจาก รั้วมหาวิทยาลัย
เพราะต้องการมา พัฒนาธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ทั้ง ๆ ที่ใกล้จะเรียนจบแล้ว แต่พอได้ลาออกมา จึงมีเวลามาดูแลธุรกิจเต็มที่
Evan Spiegel และได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ ลูกเล่นที่เรียกว่า Stories ซึ่งผู้ใช้งานจะโพสต์รูปภาพ รวมถึงวิดีโอลงหน้าฟีดของทางแอปได้ ซึ่งรูปภาพหรือวิดีโอเหล่านี้ จะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งสิ่งนี้ถือว่ายังไม่มี แอปพลิเคชันไหน ทำมาก่อนเลย จึงทำให้ธุรกิจของเขา เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยในช่วงเวลาเดียวกัน แอปพลิเคชันยอดนิยม ดังกล่าว ก็ต้องเจอกับ 2 เหตุการณ์ที่ถือว่า ทำให้ธุรกิจต้องสั่นสะเทือน เหตุการณ์ที่หนึ่งก็คือ Reggie Brown ผู้ร่วมก่อตั้งที่ แยกทางกันไปก่อนหน้านี้ ได้ยื่นฟ้องกับบริษัท ซึ่งให้เหตุผลว่าแนวคิด การแชร์รูปที่หายไปได้ นั้นเป็นความคิดของเขา โดยต่อมาเขาก็ชนะคดี ได้รับเงินชดเชยกว่า 4.8 พันล้านบาท
แอป Snapchat เหตุการณ์ที่สองก็คือ กระแสการตอบรับจากผู้ใช้งาน ของแอปดังกล่าว นั้นไปสะดุดตา Mark Zuckerberg จึงทำให้ทาง Facebook ได้ยื่นข้อเสนอในการเข้าซื้อธุรกิจเมื่อปี 2014 โดยให้มูลค่าสูงถึง 2.1 แสนล้านบาท
แต่ทาง Evan Spiegel ก็ได้ปฏิเสธไป เนื่องจากเขาอยากจะ ทำธุรกิจในระยะยาวมากกว่า อีกทั้งยังมองว่าแอปดังกล่าว มีโอกาสพัฒนาต่อไป สามารถเติบโตได้อีกในอนาคต
ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เขาคิดจะเป็นจริง โดยการระดมทุนในปี 2016 นักลงทุนมีการประเมินมูลค่า ธุรกิจของเขาสูงถึง 6.2 แสนล้านบาท จึงทำให้ Evan Spiegel ซึ่งตอนนั้นในวัยเพียง 25 ปี กลายเป็นมหาเศรษฐีระดับ Billionaire ทันที
ในเวลาต่อมา เขาต้องเจอกับปัญหา เนื่องจากปฏิเสธการขายกิจการให้กับ Facebook โดยทาง Facebook ได้มีการพัฒนาบริการ ที่สามารถแบ่งรูปภาพ จากหน้าฟีดของ Snapchat ได้โดยตรง อีกทั้งยังมีการเปิดตัว ฟีเชอร์ Instagram Stories เมื่อปี 2017 ที่มีความคล้ายกับ Snapchat Stories เกือบทุกอย่าง
แม้ว่าปัญหาดังกล่าว จะทำให้การเติบโตของแอปพลิเคชัน ต้องมีการสะดุดไปบ้าง แต่เขาก็ยังคิดในแง่ดีว่า การที่ธุรกิจยักษ์ยใหญ่อย่าง Facebook มีการพัฒนาตาม นั่นหมายความว่าผลิตภัณฑ์ จากบริษัทของเขานั้นน่าสนใจมาก
อีกทั้งยังเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ให้เขาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมาตลอด ทั้งฟิลเตอร์รูป รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยี จำลองภาพเสมือน (Augmented Reality) มาตกแต่งที่รูป อีกทั้งยังมีการ แตกไลน์ของธุรกิจ ไปทำแบรนด์แว่นตาอัจฉริยะ โดยมีกล้องในตัว โดยใช้ชื่อว่า “Spectacles”
และเมื่อปี 2018 บริษัทมีการระดมทุน เข้าตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งวันที่เปิดตัวให้เข้าซื้อขาย ธุรกิจของเขามีมูลค่าตลาดประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท และจนถึงทุกวันนี้แอปดังกล่าว นั้นมีผู้ใช้งานมากถึง 287 ล้านบัญชีต่อวัน
เรื่องที่ได้เล่ามาทั้งหมด ที่เกี่ยวกับ แอป Snapchat น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ในแง่ของการที่จะ ประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่เพียงแค่อาศัยความรู้ความสามารถแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน ก็คือ การมั่นใจในแนวคิดของตัวเอง และลงมือทำให้ถึงที่สุด
เรียบเรียงโดย อลิส