แอปประชุมงาน แอปพลิเคชันสำหรับ ประชุมงานออนไลน์ ที่นิยมใช้งานในปี 2022 จะมีแอปไหนบ้างนะ

แอปประชุมงาน

แอปประชุมงาน รวมแอปพลิเคชันประชุมงาน ในรูปแบบออนไลน์ เอาไว้แล้วที่นี่ สามารถเลือกใช้ได้ ตามความต้องการ

แอปประชุมงาน หลังจากที่ได้มีสถานการณ์ การแพร่ระบาด ของไวรัสโควิด 19 ที่ทำให้การทำงาน และวิถีชีวิตของทุกคนนั้น เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเทคโนโลยี ที่ทันสมัย ก็ทำให้การใช้งาน แอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อทำให้การทำงาน หรือจัดประชุม ของทุกคนนั้น เป็นไปได้อย่างราบรื่น และสะดวกรวดเร็ว

โปรแกรมประชุมออนไลน์ ฟรี ซึ่งจะมีอยู่ หลากหลายแอป ที่ได้รับความนิยม และแต่ละแอป ที่เรากำลังจะพูดถึงนั้น ก็มีข้อแตกต่าง ที่เป็นฟังก์ชัน ซึ่งไม่มีความเหมือนกัน

แอปประชุมงาน จึงเกิดความแตกต่าง ในการเลือกใช้งาน และเรามาดูกันดีกว่า ว่ามีแอปใดบ้าง ที่ได้ถูกใช้งาน ในการประชุม ในช่วงของการแพร่ระบาด จากไวรัสโควิด 19 ที่รับความนิยมเป็นอย่างมากที่สุด

แอปประชุมงาน

LINE แอปพลิเคชันยอดนิยม

app ประชุมออนไลน์ มีวิธีการที่เป็นไปได้มากมาย ในการขอนัดพบ เพื่อจัดประชุม แต่เป้าหมายหลักของคุณ คือการทำให้ผู้มีแนวโน้ม ว่าจะเป็นลูกค้า ให้ตอบว่า “ใช่” ได้ง่ายที่สุด นั่นหมายถึง การแนะนำสถานที่ วันที่ และเวลา ด้วยตัวเอง แต่ให้ขอบเขตแก่พวกเขา ในการแนะนำทางเลือกอื่น สำหรับการพูดคุยกัน ผ่านทางแอปพลิเคชัน

นั่นคือที่มาของ แอปประชุมงาน ตัวจัดกำหนดการประชุม เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ ที่จะช่วยจัด กำหนดการที่ดีที่สุด จะทำให้ตาราง ในการนัดหมาย ให้มีความยุ่งยาก เกิดน้อยที่สุด โดยผสานรวม กับปฏิทินของคุณ ที่จะติดตามความพร้อมของคุณ และให้ผู้เข้าร่วมจองเวลา ในการประชุมกับคุณ ได้ด้วยตัวเอง

เพราะว่า แอปประชุมงาน LINE Meeting เป็นก้าวสำคัญ สำหรับการสนทนา ทางวิดีโอแบบกลุ่ม ทำให้คุณสามารถ เข้าถึงผ่าน URL ทั้งทางสมาร์ตโฟน และในเดสก์ท็อป ในไลน์กลุ่ม ได้ถึง 500 คน คุณสามารถ สร้างการประชุม จากห้องสนทนา LINE แล้วเชิญผู้เข้าร่วม ให้เข้าร่วมห้องได้ ไม่ว่าจะผ่านห้องสนทนา หรือโดยการส่ง URL ให้พวกเขา

แอปประชุมงาน ที่ต้องบอกว่า เป็นประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ปลอดภัย นอกจากนี้หากมีแขก ที่ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมห้องได้

ก็จะมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า “kick out” ซึ่งจะช่วยให้คุณ นำพวกเขา ออกไปจากห้องได้ เพียงแค่กดแตะ “ลบ” เพื่อปกป้องแชทของคุณ ได้อย่างง่ายดาย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วย LINE เป็นการประชุม ในรูปแบบใหม่ สำหรับชีวิต ในแบบของคุณ

โปรแกรมประชุมออนไลน์ 2565

Discord แอปไลฟ์สไตล์

Discord เป็นแอปแชทด้วยเสียง และข้อความที่รวดเร็ว ปลอดภัย และฟรีสำหรับเกมเมอร์ ที่ทำงานบนเดสก์ท็อป และโทรศัพท์ของคุณ Discord เป็นแอปพลิเคชัน แชทที่คล้ายกับ Skype หรือ TeamSpeak และระบบสื่อสาร ในระดับมืออาชีพ เช่น Slack มันถูกออกแบบมา สำหรับผู้เล่น วิดีโอเกมเท่านั้น

รวมถึงวิธีการค้นหา ซึ่งกันและกัน ประสานงานการเล่น และสื่อสารขณะเล่น ช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งแฮงเอาท์ ด้วยวิดีโอ แชทด้วยเสียง และข้อความ

Discord เป็นหนึ่งใน แอปพลิเคชันแชท แอปประชุมงาน ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด บนอินเทอร์เน็ต โดยเป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักเล่นเกม ชุมชนออนไลน์ และอื่น ๆ ในการสื่อสาร และรวบรวมข้อมูล

Discord สามารถใช้งาน ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการหาคน ที่มีความสนใจที่เหมือนกัน การพบปะผู้คน ที่เล่นเกมเดียวกัน การติดต่อกับเพื่อนเก่าในอดีต หรือแม้แต่การทำงานร่วมกัน ในแอปหรือเกมเจ๋ง ๆ เนื่องจากมีการใช้ Discord นอกเหนือจากการเล่นเกม

Discord จึงให้ระบบ การโทรด้วยเสียง และวิดีโอ ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถ ใช้ประโยชน์ได้อย่างดี

หากคุณต้องการอะไรง่าย ๆ โดยไม่มีฟีเจอร์ เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการติดต่อกับเพื่อน ๆ และเข้าร่วมการแชท ในแบบสาธารณะ คุณสามารถแชท กับคนที่ไม่ใช่เพื่อนได้ สำคัญสำหรับคุณ คือเรานั้น สามารถสร้างชุมชนของคุณเอง ผ่านทาง Discord ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถ ทำเป็นห้องประชุม สำหรับคุยได้อย่างง่ายดาย

โปรแกรมประชุมออนไลน์ 2565 นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เพราะสะดวกสุด ๆ และยังสามารถประชุมพร้อมกันได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

app ประชุมออนไลน์

Google Meet

แอปประชุมงาน Google Meet โดดเด่นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณเป็นผู้ใช้ Gmail และ Googleปฏิทินอยู่แล้ว Googleเพิ่งเพิ่มปุ่ม “เพิ่มการประชุม ทางวิดีโอของGoogle Meet ที่มีสัญลักษณ์ ” สีฟ้าขนาดใหญ่ ที่ทำให้เกิดเป็น กิจกรรมใหม่ใน Googleปฏิทิน ทำให้การจัดกำหนดการ ในการใช้งาน ซับซ้อนน้อย กว่าการใช้ Zoom และบริการอื่น ๆ อย่างมาก

ซึ่งอาจต้องใช้ปลั๊กอิน ของเบราว์เซอร์ หรือการผสานรวมอื่น ๆ เพื่อเชื่อมต่อกับ Googleปฏิทิน Googleยังเพิ่มแท็บ Meet ให้กับแอป Gmail สำหรับ Android และ iOS คุณจึงเริ่ม หรือกำหนดเวลาการประชุม ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปลี่ยนแอป บนคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถไปที่ meet.google.com และเริ่มการประชุมได้เลย

ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจ จัดการประชุมอย่างไร หรือที่ไหน คุณจะได้รับ URL ที่ลงท้ายด้วยรหัส 10 อักขระแบบสุ่ม เช่น “jke-ftzq-xup” หากเป็นการประชุม ในแบบทันที คุณสามารถแชร์ URL นั้น ให้กับผู้เข้าร่วม ผ่านอีเมลหรือแอปแชท และหากเป็นการประชุม ที่กำหนดเวลาไว้ URL ดังกล่าวจะปรากฏ ในรายละเอียดกิจกรรม

วิธีประชุมออนไลน์ คุณสามารถเปิดใช้ คำบรรยายสดได้ เช่นเดียวกับในGoogle Meet ตรวจจับสิ่งที่คุณพูด ในการประชุม และนำเสนอจริง ตามคำบรรยาย เป็นระยะเวลา

แอปประชุมงาน สำหรับทุกคน ที่เปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ ระหว่างการประชุม โปรดทราบว่าคำบรรยายสด เป็นคุณลักษณะ ของการแสดงตัวอย่างใน Microsoft Teams และมีให้บริการ เฉพาะในภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา) และแอป Teams บนเดสก์ท็อปในขณะนี้

ในขณะเดียวกันGoogle Meet ให้คุณจัดการประชุม รูปแบบกลุ่ม ได้ฟรีสูงสุด 60 นาที แม้ว่าการดำเนินการนี้ จะยังคงจำกัด ระยะเวลาอยู่ก็ตาม แต่การใช้งาน ได้เพิ่มเติม 20 นาที ในบางครั้ง อาจสร้างความแตกต่างได้ นี่คือเหตุผลที่Google Meet ได้รับการโหวต ในหมวดหมู่นี้ ให้เป็นโปรแกรม ที่ถูกใช้งาน ในการประชุมมากที่สุด

โปรแกรมประชุมออนไลน์ ได้มาก ที่สุด

Zoom โปรแกรมประชุมออนไลน์ ได้มาก ที่สุด

หากคุณต้องการใช้งาน แอปพลิเคชัน Zoom สิ่งแรกที่คุณต้องทำ คือลงทะเบียน และสร้างบัญชี Zoom เมื่อทำเสร็จแล้ว คุณจะได้รับลิงก์ไปยัง URL สำหรับการประชุมส่วนตัว พร้อมตัวเลือก ในการเริ่มการประชุม ที่จะมีข้อความสำหรับทดสอบ หากคุณคัดลอก URL ลงในเบราว์เซอร์ คุณจะได้รับแจ้ง ให้ดาวน์โหลดแอป Zoom

ซึ่งคุณสามารถ เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google ของคุณ และบันทึกข้อมูล การประชุมของคุณ คุณสามารถ สร้างการประชุม ได้โดยคลิก ที่สร้างการประชุม และคุณมีตัวเลือกมากมาย เช่น ปิดเสียง เปิดเสียง ปิดเสียงวิดีโอ เชิญ แชท และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะทำให้คุณ สามารถเข้าร่วมการประชุม ได้โดยการคลิก ที่เข้าร่วมการประชุม

โดยระบุ ID การประชุม และชื่อของคุณ คุณยังสามารถดูประวัติ การประชุมและคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมากมายที่มีให้ อย่างไรก็ตาม หากคุณยังลังเล และไม่แน่ใจว่า Zoom จะเหมาะสม กับคุณหรือไม่ หากคุณกำลังมองหา เครื่องมือการประชุม ทางวิดีโอออนไลน์ ที่เหมาะสม เพื่อตอบสนอง ความต้องการ การประชุมทางวิดีโอ

และถ้าหากคุณอยากที่จะ เปรียบเทียบ โปรแกรม ประชุมออนไลน์ ที่ได้กล่าวมา ก็คงจะต้องบอกว่า ขึ้นอยู่กับความชอบ และความถนัดของแต่ละผู้ใช้งาน ว่าแอปไหนนั้น การใช้งานตอบโจทย์มากกว่ากัน

เขียนโดย อลิส