แอป Netflix เป็นแอปพลิเคชั่น ความบันเทิงยอดฮิตจริงหรือ?

แอป Netflix เป็นรูปแบบความบันเทิง ของบริการสตรีมมิ่ง แบบเปิดรับสมัครสมาชิก ซึ่งเมื่อเข้าร่วม ลงทะเบียน netflix และสมัครเป็นสมาชิกแล้ว ก็จะสามารถรับชม พวกซีรีส์และภาพยนตร์ ซึ่งจะต่างจากการ ดูหนังออนไลน์ 4k เพราะว่าจะไม่มี โฆษณามาทำให้กวนใจ ซึ่งการรับชมหนัง ผ่านทางแอปดังอย่างเน็ตฟิก สามารถทำได้โดย ผ่านทางอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต หรือถ้าไม่อยากดูแบบออนไลน์ ก็สามารถโหลดมาไว้ ในอุปกรณ์ก่อนแล้วค่อยดูก็ได้ ซึ่งแอปดังสร้างความบันเทิงแอปนี้ ใช้ได้ทั้งในอุปกรณ์ iOs Android และ Window10

รู้หรือไม่ว่าทำไม เน็ตฟิกถึงขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ของสตรีมมิ่ง เราจะบอกให้ครับ นั่นก็เพราะว่าเน็ตฟิก คิดที่จะทำคอนเทนต์เอง ทำให้หนังของเน็ตฟิก ถึงได้คุณภาพคับแก้วเลยทีเดียว

แอป Netflix รองรับภาษาไทย ที่ให้คนไทยได้สนุก ไปกับซีรีส์และภาพยนตร์ยอดฮิต

รู้หรือไม่ว่าการให้บริการของ แอป Netflix นั้นมาอำนวยความสะดวกให้คุณได้ดูภาพยนตร์ออนไลน์ ที่คุณอยากจะเลือกดู ว่าอยากจะดูผ่านทาง แอปหรือผ่านทางเว็บไซต์ ก็ได้เช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริง แบรนด์ของเน็ตฟิก ก็เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก ว่าเป็นลักษณะ ของบริษัทให้ทำการเช่าหนัง

ในแบบที่เก็บค่าสมาชิกไม่แพง คือตอนแรกมีเป็น netflix ดูฟรี แต่ในระดับการเป็นสมาชิก มีเรตต่ำสุดอยู่ที่ 280 ต่อเดือนแต่มาตอนหลังก็มีการ ยกระดับขยับขึ้นเป็น 350 ต่อเดือนแต่เปิดโอกาส ให้เข้าดูได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน และถ้าหากว่าต้องการ ลงทะเบียน Netflix แบบเล่น 4 อุปกรณ์พร้อมกัน หรือที่เรียกว่าสมัครแบบ premium ก็จะมีค่าบริการอยู่ที่ 420 บาทต่อเดือนสำหรับแบบดูพร้อมกัน 4 คนก็จะมีบัญชีแยกให้อีกด้วย

ความจริงเน็ตฟิกเกิดมาตั้งแต่ปี 1997 จากคอนเซปร้านเช่าวิดีโอ ที่ตอนนั้นโด่งดังมากอย่าง Blockbuster ที่เป็นขาใหญ่อยู่ในอเมริกาแต่ก็ต้องพบกับปัญหาคือคนส่วนใหญ่มักจะลืมเอาไปคืนและทำให้เกิดเป็นค่าปรับระดับมหาศาลทำให้มันมากกว่าการซื้อแผ่นหนังซะอีก

จากปัญหา แอป Netflix ทำให้เจอทางออกแบบชาญฉลาดระดับแรกเป็น netflix ดูฟรี

จากปัญหาที่ว่า ต้องเรียกเก็บค่าปรับ ซึ่งมีราคาแพง ทำให้เกิดเป็นระบบ แบบเหมาจ่ายรายเดือนขึ้นมา ซึ่งในตอนนั้น ไม่มีลิมิตว่าจะเช่ากี่แผ่นก็ได้ เรียกว่าก็ทำให้ ประสบความสำเร็จ มาสักระยะหนึ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไร เน็ตฟิกก็สามารถ เอาชนะขาใหญ่อย่าง Blockbuster ได้นะ

ทำให้ประสบการณ์นี้ เป็นภาพชัดเจนของคำว่า Startup ที่มันสามารถเติบโต ไปได้อย่างแท้จริง แถมยังโตแบบก้าวกระโดดอีกด้วย ทำให้ได้กลับมานั่งคิดใหม่ ว่าแม้แต่ธุรกิจ SME ยังทำแบบนี้ไม่ได้เลย เพราะถ้าเป็นธุรกิจแบบ SME แล้วเกิดอยากจะขยายสาขาไปให้ได้ถึง 77 จังหวัดจำเป็นจะต้องใช้เวลาถึง 5 ปีถึงจะสำเร็จตามที่หวัง

แต่ถ้าหากให้การ ทำธุรกิจในแบบ Startup มันสามารถทำได้ แล้วเสร็จภายในปีเดียวเท่านั้น ซึ่งในแนวคิดของทาง แอป Netflix นั้นพวกเขาสามารถทำ และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แทบจะเรียกว่าดังเพียงชั่วข้ามคืน เพราะเขาแค่เริ่ม ในสหรัฐอเมริกาแต่ขยายไปแล้ว ทั่วโลกเลยครับ

ในประเทศอเมริกา แล้ววันหนึ่งเขาเกิด อยากจะขยายมาที่ทวีปเอเชีย เขาก็เริ่มดำเนินการ ด้วยการไปประกาศออกสื่อในงาน The Consumer Eletronices Show งานนี้จะได้มีจัดขึ้น กันเป็นประจำทุกปี ซึ่งแค่ประกาศไป แค่นั้นก็ยังไม่พอ เขาได้ให้คนทางแถบเอเชีย ที่สนใจอยากจะเข้าร่วม เป็นสมาชิกสมัครผ่านทางเว็บไซต์ แถมยังสามารถ จ่ายเงินได้ตามสกุลของประเทศ ที่สมาชิกอยู่อีกต่างหาก

แล้ว แอปพลิเคชันยอดนิยม อย่างเน็ตฟิกเขาทำได้อย่างไร?

ในเมื่อ เน็ตฟิก สำนักงานใหญ่อยู่เรียกว่าแค่ประกาศไป ก็ทำให้คู่แข่งตาเกือบจะถลน ออกมานอกเบ้า และแน่นอนว่า ในตอนนั้นคู่แข่งคนสำคัญ ของเน็ตฟิกก็คือ iflix

ในช่วงแรก ๆ นั้นทางเน็ตฟิกทำโปร netflix ดูฟรี แต่ทางบริษัทเริ่มต้นด้วยการ ซื้อพวกลิขสิทธิ์หนัง หรือพวกรายการดัง ๆ เอามาทำเป็นรายการ ให้สมาชิกได้เข้าไปชมกัน แต่รู้สึกเหมือนว่า มันยังคงขาดอะไรไป เพราะเหมือนว่ากำลัง ยืมจมูกเพื่อนหายใจและรู้สึกว่าไม่มีคอนเทนต์ ที่เป็นแบบของตัวเองซะเลย

ทำให้ แอป Netflix หันมา สร้างคอนเทนต์ของตัวเอง ที่ประเดิมเรื่องแรกกันเลยก็คือ Orange is the Black เป็นเรื่องของสาว ๆ ที่ติดคุกถ่ายทอดเรื่องราว ในเรือนจำหญิง และได้นักแสดงคือ Kevin Spacey ในที่สุดก็มีคนเลียนแบบ เข้าจนได้อย่าง HBO ได้เริ่มทำเช่นกันคือ Gane of Throne

เน็ตฟิก มาพร้อมกับความบันเทิง ที่หลากหลายรสชาติ

สำหรับใครที่ยังมี อาการสงสัยว่า ตัวเองควรจะต้อง เข้าถึงเนื้อหา ของแอปดังแอปนี้หรือไม่ เรียกว่าจะมีอะไร ที่จะเหมาะเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า ก็ลองสมัครแบบ netflix ดูฟรี ทดลองใช้ดูก่อนได้ ซึ่งถ้าหากได้เข้าไปดู และเลือกใช้งานแล้ว รู้สึกว่ามันโอเคใช่เลย ก็สามารถสมัครเป็น แบบรายเดือนหรือว่ารายปีก็ได้

ที่น่าสนใจคือ ซีรีส์หรือว่าหนังของ เน็ตฟิก คอนเทนต์ ออริจินัล แต่ละเรื่องล้วนมีเสน่ห์ ที่ไม่เหมือนกัน แถมยังได้มีการการันตี ความหลากหลายของเนื้อหาและคุณภาพ ซึ่งแน่นอนว่าคุณภาพ เรื่องโปรดักส์ชั่นนั้น จัดเต็มมาโดยตลอด ทำให้ทางผู้ผลิต ถึงไม่ยอมหยุดกันเลย สรรหาเรื่องราวมานำเสนอ เพราะอย่างน้อยก็ได้มีการพัฒนา และทำหนังที่ได้คุณภาพ ออกมาสู่สายตาพี่น้องประชาชนทั่วโลก ให้ได้รับความบันเทิงที่หลากหลาย

แพลตฟอร์มในแบบแอปพลิเคชั่นของ เน็ตฟิก ดีตรงไม่มีโฆษณามากวนใจ

มาถึงตอนนี้ เน็ตฟิก ได้เปิดให้บริการถึง 3 แพคเก็จหลัก ที่จะมีความต่างกันในการรับชม คือถ้าหากต้องการรับชม แบบภาพสวยและคมชัดมากที่สุด ก็ต้องรับแบบแพคเก็จ ความละเอียดในระดับ 4K แถมยังชมกันได้ หลายอุปกรณ์พร้อมกัน ซึ่งแพคเก็จนี้ดูแล้ว ก็แพงกว่าคู่แข่งนิดหน่อย แต่ถ้าหากว่าจะมาเทียบกัน ที่ความหลากหลายของหนัง แล้วมีความน่าสนใจที่มากกว่า ที่สำคัญคือทางเจ้าของยืนยัน อย่างหนักแน่นว่าจะไม่มี การขายข้อมูลส่วนตัว ของผู้ใช้บริการอย่างแน่นอน

ใครที่สมัครแบบ เน็ตฟิกรายเดือน ถ้าสังเกตก็จะเห็น ว่ามีระบบของอัลกอริทึม เพื่อให้การค้นหาหนัง หรือว่าซีรีส์ มีความง่ายมากยิ่งขึ้น แถมยังเพิ่มการแจ้งเตือน ถ้าหากมีเรื่องไหนที่อัปเดตใหม่ หรือเพิ่มเรื่องราวใหม่ ที่เราเคยดูค้างไว้อยู่แล้ว สำหรับเรื่องนี้ทาง เน็ตฟิก จะมีระบบการประเมินด้วยนะ จากภาพรวมและประวัติ การรับชมของเราเอง

ทำให้มีการแนะนำ หนังหรือว่าซีรีส์ แนวเดียวกันมาให้กับเรา ได้รับชมอีกเรียกว่า ถ้าใครลืมไปแล้วว่าเคยมี แอปบันเทิง แอปนี้อยู่ในเครื่องแล้วล่ะก็ การแจ้งเตือนก็เป็นอีกวิธี ที่ทำให้เราเกิดความสนใจ และกลับเข้าไปรับชม ได้อีกด้วยครับ

สิ่งที่สำคัญที่ทำให้ เน็ตฟิกรายเดือน ประสบความสำเร็จคือการที่ทาง แอป Netflix ได้มี การปรับตัวไปตามเทคโนโลยีที่ ก้าวหน้าไปตลอด ด้วยการให้สมาชิกได้สามารถ เข้าถึงความบันเทิงที่หลากหลาย ซึ่งผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยง่ายที่ไม่ว่า จะเป็นสมาร์ทโฟน หรือแม้แต่ชมผ่านทางสมาร์ททีวี และคอมพิวเตอร์ได้แบบง่าย ๆ

และถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่อยู่ในสังคมยุคดิจิทัล บอกเลยว่าอย่าตกกระแสของ เน็ตฟิกรายเดือน อย่างเด็ดขาดโดยเฉพาะถ้าหากว่า คุณเป็นคนที่ชื่นชอบ การดูซีรีส์และหนังใหม่ ๆ หลากหลายสัญชาติแล้วล่ะก็ อย่าพลาดที่จะมีแอปดัง แอปดำแดงอย่างเน็ตฟิกไปนะครับ เพราะมันคือแอป ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินได้ตลอด 24 ชม.เลยทีเดียว

—*— อ้ายตัวกลม